UA-185332517-1
![]() Mahasarakham University (MSU)
ก่อตั้ง: พ.ศ. 2537 ต้นไม้ประจำสถาบัน: ต้นราชพฤกษ์ (ต้นคูน) สีประจำสถาบัน: สีเหลือง-เทา จำนวนคณะ: 15 คณะ 1 วิทยาลัย 2 โครงการจัดตั้งคณะ จำนวนนักศึกษา: ประมาณ 37,342 คน อัตราค่าเล่าเรียน: หน่วยกิตละประมาณ 200-1,500 บาท ที่อยู่และเบอร์โทรศัพท์: วิทยาเขตใหม่ 41/20 ตำบลขามเรียง อำเภอกันทรวิชัย จังหวัดมหาสารคาม โทร. 0 4375 4321-40 วิทยาเขตเก่า 269 ถนนนครสวรรค์ ตำบลตลาด อำเภอเมือง จังหวัดมหาสารคาม เว็บไซต์: www.msu.ac.th "คำขวัญ - ‘พหูนํ ปณฑิโต ชีเว' หมายความว่า ‘ผู้มีปัญญาพึงอยู่เพื่อมหาชน'"
![]() มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ถือกำเนิดมาจากการเป็น "วิทยาลัยวิชาการศึกษามหาสารคาม" ซึ่งตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2511 โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อที่จะขยายการศึกษาชั้นสูงไปสู่ต่างจังหวัด เริ่มแรกตั้งอยู่ที่ ถ.นครสวรรค์ ต.ตลาด อ.เมือง จ.มหาสารคาม บนเนื้อที่ 197 ไร่ และได้รับการยกฐานะขึ้นเป็น "มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ วิทยาเขตมหาสารคาม" ในปี พ.ศ. 2517 จนกระทั่งเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2537 จึงได้แยกตัวเป็นมหาวิทยาลัยเอกเทศภายใต้ชื่อ "มหาวิทยาลัยมหาสารคาม" โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงลงพระปรมาภิไธย ในพระราชบัญญัติของมหาวิทยาลัย และประกาศในราชกิจจานุเบกษา นับเป็นมหาวิทยาลัยของรัฐแห่งที่ 22 ของประเทศไทย และเริ่มย้ายการเรียนดการสอนบางหน่วยงานไปยังสถานที่แห่งใหม่ที่ ต.ขามเรียง อ.กันทรวิชัย จ.มหาสารคาม บนเนื้อที่ประมาณ 1,300 ไร่ ซึ่งเป็นศูนย์กลางการบริหารการทั้งระดับปริญญาตรี โท และเอกในขณะนี้ ![]() มหาวิทยาลัยมหาสารคามนับเป็นสถาบันการศึกษาชั้นสูงแห่งหนึ่งของภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย มีนโยบายกระจายโอกาสทางการศึกษาระดับอุดมศึกษาอย่างกว้างขวางและทั่วถึง เพื่อตอบสนองความต้องการของท้องถิ่นและภูมิภาค โดยจัดตั้งหน่วยงานต่างๆ ที่เป็นวิทยาเขตและศูนย์บริการเขตพื้นที่ต่างจังหวัดอีกหลายแห่ง ปัจจุบันมหาวิทยาลัยมหาสารคามมีอายุ 14 ปี หากนับตั้งแต่การก่อตั้งในฐานะมหาวิทยาลัยอันเป็นเอกเทศแห่งนี้ แต่หากนับรวมตั้งแต่แรกเริ่มสถานการศึกษาแห่งนี้ถูกจัดตั้งมาตั้งแต่ปี 2511 จึงมีอายุ 40 ปีแล้วมี 2 วิทยาเขตการศึกษา คือที่อำเภอเมือง (เรียกว่า ม.เก่า) และอำเภอกันทรวิชัย (เรียกว่า ม.ใหม่) ![]() ตราสัญลักษณ์ของสถาบันคือ "ตราโรจนากร" หมายถึง สัญลักษณ์แห่งความเจริญรุ่งเรือง มีองค์ประกอบเป็นรูปใบเสมา ซึ่งหมายถึง ภูมิปัญญา ภายในมีภาพสัญลักษณ์ขององค์พระธาตุนาดูน หมายถึง คุณธรรมความดี ด้านล่างเป็นสุริยรังสี หมายถึงความเจริญรุ่งเรือง ที่แผ่ขึ้นจากผ้าลายขิด ซึ่งหมายถึง ภูมิปัญญาและมรดกทางวัฒนธรรมแห่งอีสาน และทั้งหมดนี้อยู่เหนือคำขวัญภาษาบาลีว่า "พหูนํ ปณฺฑิโต ชีเว" หมายความว่า "ผู้มีปัญญาพึงเป็นอยู่เพื่อมหาชน" และหากรวมความหมายทั้งหมดแล้วก็คือ ความเจริญรุ่งเรืองอันเป็นผลจากความรู้และคุณธรรม ผสมผสานกับภูมิปัญญาท้องถิ่น สีประจำสถาบันได้แก่ "สีเหลือง-เทา" โดยสีเหลือง หมายถึง ความเจริญรุ่งเรือง ความดีงาม ความอุดมสมบูรณ์ สีเทา หมายถึง ความคิด ปัญญา ดังนั้นความหมายโดยรวมคือ ความเจริญรุ่งเรืองอันเกิดจากปัญญาและความดีงาม และต้นไม้ประจำมหาวิทยาลัย ได้แก่ "ต้นราชพฤกษ์" หรือ "ต้นคูน" ![]()
![]() สำหรับชีวิตนักศึกษา จังหวัดมหาสารคามได้ชื่อว่าเป็น "สะดือของอีสาน" เพราะอยู่ตรงใจกลางภูมิภาคพอดี เป็นจังหวัดเล็กๆ เงียบๆ ไม่ใช่เมืองศูนย์กลางธุรกิจ หรือศูนย์กลางการท่องเที่ยว แต่ก็เต็มไปด้วยหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ เหมาะสำหรับนักศึกษาที่ต้องการหาความรู้ทางมานุษยวิทยานอกเวลาเรียน ที่กันทรวิชัย ตัวมหาวิทยาลัยมีชุมชนหมู่บ้าน 2 แห่งขนาบรอบ คือ บ้านขามเรียง และท่าขอนยาง มีถนนหลวงตัดผ่าน เพื่อให้นิสิตของมหาวิทยาลัยได้พักในหอพักที่ได้มาตรฐานและปลอดภัยสำหรับการเข้าพัก จึงได้มีกฎระเบียบว่านิสิตชั้นปีที่ 1 และ 2 ต้องพักในหอพักของมหาวิทยาลัยมหาสารคาม หรือหอพักเครือข่ายภายใต้กำกับดูแลของมหาวิทยาลัยเท่านั้น และในช่วงว่างจากการเรียน นักศึกษานิยมรวมตัวกันที่หอพักเพื่อจับกลุ่มกันอ่านหนังสือ ทบทวนความรู้ หรือทำรายงาน ตอนเย็นนักศึกษาชายจะนิยมเล่นฟุตบอล บาสเก็ตบอล แบดมินตัน เทนนิส และที่นิยมกันมากคือ หมากกระดาน จะเล่นกันตามร่มไม้หรือใต้อาคารเรียน หรือไม่ก็เล่นอินเทอร์เน็ตกัน แต่ก็มีหลายคนที่เลือกที่จะไปเดินเที่ยวตลาดนัดเปิดท้ายขายของในเมือง ซึ่งเปิดประมาณ 5 โมงเย็นถึง 5 ทุ่ม ทุกวันศุกร์-เสาร์ การรับน้องที่นี่จะเป็นการเชียร์กลางและเชียร์คณะ และยังมีการรวมตัวกันเพื่อเล่นกีฬาราชพฤกษ์ ซึ่งแต่ละคณะจะส่งตัวแทนมาแข่งกีฬากัน นอกจากนั้นก็ยังมีงานลอยกระทงที่นับเป็นงานใหญ่ประจำปี มีการออกร้าน บรรยากาศคล้ายงานวัด นักศึกษานิยมมาเที่ยวในตัวมหาวิทยาลัยเพราะมีสระน้ำให้ลอยกระทงถึง 3 แห่ง...... |
||||||||||||||||||
รายงานโดย
P'BIFERN ALIST ACADEMY |